ประกันภัยรถยนต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นของผู้ใช้รถทุกคัน โดยเฉพาะรถที่ต้องใช้งานทุกวันอย่างต่อเนื่อง แต่การต่อประกันภัยชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ก็แลกมาด้วยเบี้ยประกันที่สูงที่สุดเช่นกัน หลายคนจึงมักหลีกเลี่ยงไปใช้ประกันชั้น 2+ แทน ซึ่งให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่เบี้ยประกันถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงกระนั้น การเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ก็มีข้อดี-ข้อเสียที่ควรพิจารณาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่เจ้าของรถจะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจในภายหลัง ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ประกอบด้วย: 1. การคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ผู้เอาประกันภัย2. การคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์คู่กรณี3. การคุ้มครองความเสียหายต่อร่างการและชีวิตบุคคลภายนอก4. การคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน5. การคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล6. ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร7. การคุ้มครองกรณีรถสูญหาย และไฟไหม้8. การคุ้มครองอุทกภัยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้9. เงินประกันตัวผู้ขับขี่ ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคุ้มครองเทียบเท่ากับประกันชั้น 1 แต่ข้อแตกต่างสำคัญ คือ จะต้องมีคู่กรณีเป็นพาหนะทางบกที่สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งเท่านั้น จึงจะสามารถขอรับสินไหมทดแทนได้ แม้ว่าจะฟังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนัก…
ถือว่าเป็นข่าวดีใช่ไหมละ รูปแบบของการทำประกันภาคสมัครใจนั้น จะเอิ้อประโยชน์ให้กับผู้ประสบเหตุทางรถยนต์ซะส่วนใหญ่ เพื่อนๆไม่จำเป็นที่จะต้องสำรองค่าใช้จ่ายเองก่อนเลย
มีด้วยหรือประกันรถยนต์ชั้น 5 บางคนไม่เคยได้ยินและไม่รู้มันคืออะไร ประกันชั้น 3 ว่าถูกที่สุดแล้วถ้ามีชั้น 5 ขึ้นมาจะคุ้มครองอะไรก็ยังคิดภาพตามไม่ออกจริงๆ เอาล่ะเพื่อไม่ให้งงกันไปมากกว่านี้ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 5 ก็คือเป็นการเรียกรวมกันของประกันชั้น 2+ รวมกับประชั้น 3+