9 ม.ค. 66 เริ่มใช้ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประชาสัมพันธ์ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้ม “ใบขับขี่” เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 6 เรื่องต้องรู้ 1. ขับรถต้องมี “ใบขับขี่” โดยผู้ขับขี่ทุกคน มี 12 คะแนน 2. ทำผิดกฎจราจร ใน 20 ฐานความผิดที่อาจก่ออุบัติเหตุ หรือไม่ชำระค่าปรับจราจร ถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1 – 4 คะแนน ขึ้นอยู่กับความผิด 3. หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่…
ช่วงนี้ก็จะเป็นหน้าฝน ฝนก็ตกเกือบทุกวัน ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ 5 สิ่งสำคัญที่สุด ที่ควรตรวจเช็คเพื่อรองรับกับหน้าฝนนี้ เพื่อการขับขี่รถที่ปลอดภัยของคุณ 1. ยางรถยนต์ ดอกยางถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยบนถนนเปียก หากดอกยางเหลือน้อย ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำต่ำลง หากขับผ่านแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดอาการเหินน้ำ ส่งผลให้รถหมุนแฉลบได้ ยางที่ดีควรมีดอกยางเหลือไม่น้อยกว่า 3 มิลลิเมตร และต้องไม่มีรอยปริแตกโดยเฉพาะบนแก้มยาง 2. ระบบเบรก รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักมาพร้อมระบบเบรก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคตายเมื่อเหยียบเบรกเต็มแรง ซึ่งมีประโยชน์มากบนถนนเปียกลื่น เพราะผู้ขับขี่จะยังคงสามารถควบคุมทิศทางตัวรถเพื่อเลี่ยงสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้ วิธีตรวจเช็คก็ง่ายๆ ให้ลองหาถนนโล่งๆและปลอดภัย (หากเป็นถนนเปียกหรือมีทรายอยู่บ้างจะดีมาก) ขับรถด้วยความเร็วราว 30 กม./ชม. จากนั้นให้เหยียบเบรกเต็มแรง หากได้ยินเสียงดังจากช่วงล่างและมีแรงสะท้านที่แป้นเบรกเป็นจังหวะถี่ๆ นั่นแสดงว่าระบบเอบีเอสยังคงทำงานได้ดีอยู่ แต่หากได้ยินเสียงยางบดถนนดังเอี๊ยดยาวๆ แล้วล่ะก็ แสดงว่าเอบีเอสมีปัญหาแล้วล่ะ…
1. ล้างภายนอกให้บ่อยขึ้น การทำความสะอาดภายนอกรถ ก็คล้ายกับการล้างมือ ยิ่งล้างบ่อยเท่าไหร่ คราบสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ ก็หลุดออกบ่อยขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ช่วงนี้ล้างรถให้บ่อยขึ้น ด้วยน้ำยาล้างรถทั่วไปก็เพียงพอ เน้นจุดที่สัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู ฝาถังน้ำมัน ฝากระโปรง เป็นต้น 2. ทำความสะอาด พรม และยางปูพื้น ยางปูพื้น และพรมพื้นรถ เป็นจุดที่ไม่ควรมองข้าม นำยางปูพื้นออกมาเคาะฝุ่น และขัดล้างทำความสะอาดส่วนพรมพื้นรถให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดหิน/ดิน/ทรายออก หากมีคราบก็ทำความสะอาดให้หมดคราบแล้วนำรถไปจอดกลางแจ้งหันให้แสงแดดส่องถึงจุดที่มีคราบ เปิดประตูและกระจกทิ้งไว้ 1 ชม. เพื่อให้ความร้อนจากแสงแดดฆ่าเชื้อโรค 3. เช็ดด้วยน้ำ ภายในห้องโดยสาร คือ แหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี เนื่องจากเป็นระบบที่มีอากาศปิด ดังนั้น ช่วงที่มีไวรัสระบาด ควรทำความสะอาดห้องโดยสารให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดพ่นด้วยสเปรย์ฆ่าเชื้อ…