1. ล้างภายนอกให้บ่อยขึ้น การทำความสะอาดภายนอกรถ ก็คล้ายกับการล้างมือ ยิ่งล้างบ่อยเท่าไหร่ คราบสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ ก็หลุดออกบ่อยขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ช่วงนี้ล้างรถให้บ่อยขึ้น ด้วยน้ำยาล้างรถทั่วไปก็เพียงพอ เน้นจุดที่สัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู ฝาถังน้ำมัน ฝากระโปรง เป็นต้น 2. ทำความสะอาด พรม และยางปูพื้น ยางปูพื้น และพรมพื้นรถ เป็นจุดที่ไม่ควรมองข้าม นำยางปูพื้นออกมาเคาะฝุ่น และขัดล้างทำความสะอาดส่วนพรมพื้นรถให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดหิน/ดิน/ทรายออก หากมีคราบก็ทำความสะอาดให้หมดคราบแล้วนำรถไปจอดกลางแจ้งหันให้แสงแดดส่องถึงจุดที่มีคราบ เปิดประตูและกระจกทิ้งไว้ 1 ชม. เพื่อให้ความร้อนจากแสงแดดฆ่าเชื้อโรค 3. เช็ดด้วยน้ำ ภายในห้องโดยสาร คือ แหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี เนื่องจากเป็นระบบที่มีอากาศปิด ดังนั้น ช่วงที่มีไวรัสระบาด ควรทำความสะอาดห้องโดยสารให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาดพ่นด้วยสเปรย์ฆ่าเชื้อ…
รถใครใครก็รักจริงไหม ถึงแม้ว่าทุกๆ 5,000 ถึง 10,000 กิโลเมตร เราต้องนำรถไปตรวจสภาพก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มิวายเกิดปัญหาจุกจิกระหว่างที่เราใช้ ดังนั้นถ้าเรามีวิธีดูแลรักษารถและหมั่นคอยตรวจสอบ บางปัญหาอาจจะไม่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถนอมรถที่เรารักให้มีสภาพที่ดีด้วย เพื่อความไม่ประมาท เราจึงมีวิธีการดูแลรักษารถเบื้องต้นแบบง่ายๆฉบับคนรักรถมาแนะนำกัน 1.การตรวจลมยาง ตรวจง่ายๆด้วยสายตาว่ามันอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะ เพราะถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และทำให้อายุของยางสั้นลง 2.ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน รีบปรึกษาช่างทันที ถ้าเป็นน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ส่วนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเฟืองท้าย ก็ควรรีบปรึกษาช่างเช่นเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์ 3.การดูแลน้ำระบายความร้อน เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม ถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน เพราะเรื่องนี้ก็ละเลยไม่ได้อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วได้นะ…
สวัสดีครับพบกับข่าวสารของจากเอส เอส สแตนดาร์ด กันอีกเช่นเคยนะครับ วันนี้ทางเราจะมาแนะนำวิธีเช็คใบสั่งว่าเราทำผิดจราจรที่ไหนบ้างมีกี่ใบเพื่อที่จะไม่ได้ต้องรอจดหมายถึงบ้านครับผม ว่าแต่เช็คยังไงนั้น มาติดตามกันเลยครับ 1) เข้าเว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/ 2) คลิกลงทะเบียนใช้งานครับ ขั้นตอนนี้กรุณาเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนด้วยนะครับ โดย Laser ID คือเลขหลังบัตรประชาชนเลยครับ และทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เลยครับ จนเสร็จสิ้นการสมัคร 3) เข้าสู่ระบบ ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านที่เราตั้งไว้ครับ 4) หากเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกวันที่ต้องการจะตรวจสอบและกดค้นหาได้เลยครับ 5) ถ้ากดค้นหาแล้วขึ้นเลขที่ใบสั่งตามรูปแสดงว่าเราได้รับใบสั่งแล้วครับผม 6) สามารถตรวจสอบวันเวลาที่ทำผิดได้เลย 7) เราสามารถจ่ายเงินค่าปรับได้เลยผ่านทางระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เลย มีทั้งบัตรเครดิต / โอน / พร้อมเพย์ ได้ทุกช่องทางเลยครับบ 8)…